INDUSTRIAL GEAR
เฟืองหรือเกียร์อุตสาหกรรม เป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องจักรและระบบกลไกจำนวนมากที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เกียร์เป็นอุปกรณ์ทางกลที่ส่งการเคลื่อนไหวและกำลังจากส่วนหนึ่งของเครื่องจักรไปยังอีกส่วนหนึ่งโดยการยึดฟันอย่างต่อเนื่อง เกียร์อุตสาหกรรมได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อโหลดสูง ให้การควบคุมการเคลื่อนไหวที่แม่นยำ และส่งกำลังอย่างมีประสิทธิภาพ มีหลายประเภทและหลายรูปแบบ อาทิเช่น เฟืองเดือย เฟืองเกลียว เฟืองดอกจอก เฟืองตัวหนอน และเฟืองวงแหวนหรือเฟืองดาวเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งเฟืองแต่ละประเภทมีข้อดีในตัวเองและเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความสามารถในการรับน้ำหนัก ความเร็ว ระดับเสียง และประสิทธิภาพการใช้งาน เกียร์เหล่านี้มักใช้งานทางอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น อุปกรณ์การผลิต สายพานลำเลียง เครื่องจักรในเหมืองแร่ อุปกรณ์ก่อสร้าง กังหันลม และอื่นๆ
เฟืองหรือเกียร์อุตสาหกรรมประเภททั่วไปที่ใช้ในการใช้งานต่างๆ มีดังนี้
1. เฟืองเดือย (Spur Gears): เฟืองเดือยเป็นเฟืองประเภทที่พบบ่อยที่สุดและมีฟันตรงขนานกับแกนเฟือง มีการออกแบบที่เรียบง่าย ง่ายต่อการผลิต และให้การส่งผ่านพลังงานที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกว
2. เฟืองเกลียว (Helical Gears): เฟืองเกลียวมีฟันที่ทำมุมซึ่งถูกตัดเป็นมุมกับแกนเฟือง การออกแบบฟันแบบเกลียวนี้ช่วยให้การทำงานราบรื่นและเงียบกว่าเมื่อเทียบกับเฟืองตรง เฟืองเกลียวมักใช้กับงานที่มีความเร็วสูงและมีโหลดสูง
3. เฟืองดอกจอก (Bevel Gears): เฟืองดอกจอกมีฟันรูปกรวยและใช้ในการส่งการเคลื่อนไหวระหว่างเพลาที่ตัดกัน โดยทั่วไปจะใช้ในการใช้งานที่จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางการหมุน เช่น ในเฟืองท้ายในยานพาหนะ
4. เฟืองตัวหนอน (Worm Gears): เฟืองตัวหนอนประกอบด้วยเฟืองคล้ายสกรู (ตัวหนอน) ที่ประกบกับล้อเฟือง ให้อัตราทดเกียร์สูง และใช้ในการใช้งานที่ต้องการแรงบิดสูงที่ความเร็วต่ำ เช่น ในระบบสายพานลำเลียงและกลไกการยก
5. เฟืองวงแหวนหรือเฟืองดาวเคราะห์ (Planetary Gears): เฟืองดาวเคราะห์หรือที่เรียกว่าเกียร์ epicyclic ประกอบด้วยเกียร์กลาง (เกียร์ดวงอาทิตย์) ล้อมรอบด้วยเกียร์นอกหนึ่งหรือหลายเกียร์ (เกียร์ดาวเคราะห์) ที่หมุนรอบเกียร์ดวงอาทิตย์ มีขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับโหลดแรงบิดสูงได้ ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในระบบส่งกำลังของยานยนต์และเครื่องจักรอุตสาหกรรม
6. เกียร์แร็คแอนด์พิเนียน (Rack and Pinion Gears): เกียร์แร็คแอนด์พิเนียนใช้ในการแปลงการเคลื่อนที่แบบหมุนเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น เฟือง (เฟืองเล็ก) ประกบกันกับแร็คเชิงเส้น (แท่งฟันแบน) ทำให้แร็คเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงเมื่อเฟืองหมุน เกียร์แรคแอนด์พีเนียนมักใช้ในการใช้งานต่างๆ เช่น ระบบบังคับเลี้ยวและแอคทูเอเตอร์เชิงเส้น
2. เฟืองเกลียว (Helical Gears): เฟืองเกลียวมีฟันที่ทำมุมซึ่งถูกตัดเป็นมุมกับแกนเฟือง การออกแบบฟันแบบเกลียวนี้ช่วยให้การทำงานราบรื่นและเงียบกว่าเมื่อเทียบกับเฟืองตรง เฟืองเกลียวมักใช้กับงานที่มีความเร็วสูงและมีโหลดสูง
3. เฟืองดอกจอก (Bevel Gears): เฟืองดอกจอกมีฟันรูปกรวยและใช้ในการส่งการเคลื่อนไหวระหว่างเพลาที่ตัดกัน โดยทั่วไปจะใช้ในการใช้งานที่จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางการหมุน เช่น ในเฟืองท้ายในยานพาหนะ
4. เฟืองตัวหนอน (Worm Gears): เฟืองตัวหนอนประกอบด้วยเฟืองคล้ายสกรู (ตัวหนอน) ที่ประกบกับล้อเฟือง ให้อัตราทดเกียร์สูง และใช้ในการใช้งานที่ต้องการแรงบิดสูงที่ความเร็วต่ำ เช่น ในระบบสายพานลำเลียงและกลไกการยก
5. เฟืองวงแหวนหรือเฟืองดาวเคราะห์ (Planetary Gears): เฟืองดาวเคราะห์หรือที่เรียกว่าเกียร์ epicyclic ประกอบด้วยเกียร์กลาง (เกียร์ดวงอาทิตย์) ล้อมรอบด้วยเกียร์นอกหนึ่งหรือหลายเกียร์ (เกียร์ดาวเคราะห์) ที่หมุนรอบเกียร์ดวงอาทิตย์ มีขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับโหลดแรงบิดสูงได้ ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในระบบส่งกำลังของยานยนต์และเครื่องจักรอุตสาหกรรม
6. เกียร์แร็คแอนด์พิเนียน (Rack and Pinion Gears): เกียร์แร็คแอนด์พิเนียนใช้ในการแปลงการเคลื่อนที่แบบหมุนเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น เฟือง (เฟืองเล็ก) ประกบกันกับแร็คเชิงเส้น (แท่งฟันแบน) ทำให้แร็คเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงเมื่อเฟืองหมุน เกียร์แรคแอนด์พีเนียนมักใช้ในการใช้งานต่างๆ เช่น ระบบบังคับเลี้ยวและแอคทูเอเตอร์เชิงเส้น
โดยทั่วไปแล้วเกียร์อุตสาหกรรมมักผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ข้อกำหนดการใช้งาน ความสามารถในการรับน้ำหนัก สภาพการทำงาน และการพิจารณาต้นทุน วัสดุทั่วไปบางชนิดที่ใช้สำหรับเกียร์อุตสาหกรรมได้แก่
- เหล็ก (Steel): เหล็กเป็นหนึ่งในวัสดุที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับเกียร์อุตสาหกรรม เนื่องจากมีความแข็งแรง ความทนทาน และทนต่อการสึกหรอสูง สามารถใช้เหล็กประเภทต่างๆ เช่น เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าโลหะผสม และเหล็กกล้าไร้สนิม ตามความต้องการเฉพาะของการใช้งาน
- เหล็กหล่อ (Cast Iron): เฟืองเหล็กหล่อขึ้นชื่อในด้านคุณสมบัติการหน่วงที่ดี ความทนทานต่อการสึกหรอ และความสามารถในการดูดซับแรงกระแทก เกียร์เหล็กหล่อมักใช้ในการใช้งานที่การลดเสียงรบกวนเป็นสิ่งสำคัญ
- ทองเหลือง (Brass): ทองเหลืองเป็นวัสดุทั่วไปที่ใช้กับเกียร์ในงานที่ต้องการแรงเสียดทานต่ำ ทนต่อการกัดกร่อน และแปรรูปได้ดี เฟืองทองเหลืองมักใช้ในงานเบาและงานความเร็วต่ำ
- บรอนซ์ (Bronze): เกียร์บรอนซ์ขึ้นชื่อในด้านความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการสึกหรอ และความสามารถในการทำงานในสภาวะที่มีความต้องการสูง เช่น อุณหภูมิสูงและสภาพแวดล้อมที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เกียร์ทองแดงมักใช้ในการใช้งานหนัก เช่น อุปกรณ์ทางทะเลและเหมืองแร่
- อะลูมิเนียม (Aluminum): เฟืองอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี และมักใช้ในการใช้งานที่ให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนักเป็นอันดับแรก เกียร์อะลูมิเนียมมักใช้ในการใช้งานด้านการบินและอวกาศและยานยนต์
- พลาสติก (Plastics): พลาสติกหลายประเภท เช่น ไนลอน อะซีตัล และโพลีเอทิลีน ใช้สำหรับเกียร์ในการใช้งานที่เสียงรบกวนต่ำ การหล่อลื่นในตัวเอง และความต้านทานการกัดกร่อน เกียร์พลาสติกมักใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การแปรรูปอาหาร บรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
- วัสดุคอมโพสิต (Composite Materials): วัสดุคอมโพสิต เช่น โพลีเมอร์เสริมคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ถูกใช้ในเกียร์ที่ต้องการอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักสูง ความต้านทานต่อความล้า และความต้านทานการกัดกร่อน เกียร์คอมโพสิตมักใช้ในการใช้งานด้านการบินและอวกาศและประสิทธิภาพสูง
การเลือกใช้วัสดุเฟืองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจถึง ความทนทานและประสิทธิภาพของเครื่องจักรอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสมที่สุด ผู้ใช้งานควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความสามารถในการรับน้ำหนัก สภาพการทำงาน ต้นทุน และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับเกียร์อุตสาหกรรม
รับผลิตงานขึ้นรูปตามแบบตามตัวอย่าง ทั้งงานตัด งานพับ งานม้วน งานเชื่อม งานกลึง งานมิลลิ่ง งานเจาะ และงานเจียร โดยสามารถเลือกผลิตได้จากวัสดุหลากหลาย อาทิเช่น เหล็ก สแตนเลส อะลูมิเนียม ทองเหลือง/ทองแดง เป็นต้น ผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย มีความเที่ยงตรง แม่นยำ รวดเร็ว ราคาเป็นกันเอง สนใจติดต่อเรา หรือคลิกปุ่มขอใบเสนอราคา เพื่อส่งรายละเอียด แบบ ตัวอย่าง โดยตรงถึงเราได้ทันที